ถ้าถามว่า “คุณชอบบินกับสายการบินไหนมากที่สุด?”

เชื่อว่าลูกเพจเพื่อนบอกโปร จะต้องคิดถึงสายการบิน “Singapore Airlines” เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แน่เลย

ซึ่งวันนี้ผมจะมารีวิวเที่ยวสิงคโปร์กับ Singapore Airlines แต่ความน่าตื่นเต้นคือ สิงคโปร์ครั้งนี้จะสั้นกว่าปกติ เพราะผมอยู่แค่ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเพียงการแวะต่อเครื่องเพราะจะมีเดินทางกับ Singapore Airlines ต่อไปยังประเทศอื่น ซึ่งยังไม่บอกว่าประเทศอะไร อิอิ

..แต่สิงคโปร์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่เปิดมุมโลกมาก หลายคนอาจจะคิดว่าเที่ยวสิงคโปร์แพง ค่าครองชีพสูง แต่หลายคนยังไม่รู้ความลับว่า มีวิธีเที่ยวสิงคโปร์หลายแบบที่ทั้งเที่ยวจุใจ คุ้มราคา หรือบางอย่างก็ “ฟรี”

ถ้าอยากรู้…ผมจะบอกเทคนิคนี้ให้ครับ

 

มาสนามบินให้เร็วขึ้นอีกซักนิด แล้วมาดื่มด่ำกับ SilverKris Lounge สำหรับผู้โดยสารชั้น Business (ความจริงคือมาสาย โชคดีที่เล้าจน์อยู่ใกล้มาก ไม่งั้นคงไม่มีเวลาเข้า แงแง) สำหรับเล้าจน์นี้เป็นเล้าจน์ที่ใหม่เอี่ยมอ่อง มั่นใจได้ว่าการบริการ และที่นั่งต่างๆ ล้วนอำนวยความสะดวกสบาย อาหารและเครื่องดื่มครบครัน ประทับใจยิ่งกว่าคือมีน้ำมะพร้าวเผาเป็นลูกให้ดื่มชื่นใจด้วย ผมดื่มจนเลยคำว่าชื่นใจไปไกลเลยแหล่ะอันที่จริง

Boeing 787-10

ใช่แล้วครับ เดินทางครั้งนี้กับ Singapore Airlines ได้มาลองเครื่องบินรุ่นใหม่ Boeing 787-10 ซึ่งเค้าใช้สำหรับเที่ยวบินที่ไม่เกิน 8 ชั่วโมง โดยเครื่องบินโบอิ้ง 787-10 ประกอบด้วย 2 ชั้นโดยสาร คือ ชั้นธุรกิจจำนวน 36 ที่นั่ง และชั้นประหยัดจำนวน 301 ที่นั่ง

ที่นั่งชั้นธุรกิจบนเครื่องโบอิ้ง 787-10 ที่นั่งจะจัดเรียงแบบ 1-2-1 ทำให้เราได้นั่งติดทางเดินไม่ว่าจะนั่งที่ไหน เริ่ด!

ความฟินคือ ที่นั่งสามารถปรับเอนเป็นเตียงนอนราบขนาด 76 นิ้วได้เลย นอนสบายมากกกกก รู้สึกส่วนตัวด้วยเพราะมีที่กั้นมาบังไม่ให้เห็นเรานอนอ้าปากหวอได้ แต่เวลาผ่านไปไวมากเพราะไฟลท์สั้นจริงๆ แอบอยากให้ไฟลท์นานกว่านี้เลย 5555 ต้องเลือกว่าจะดูหนัง หรือจะนอน หรือจะกิน แต่ผมเลือกหมดเลย ความโลภชนะทุกสิ่ง

KrisWorld เป็นระบบความบันเทิงส่วนตัวบนเที่ยวบิน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 18 นิ้วที่มีความคมชัดแบบช้าดดดชัด ด้วยระบบ eX3 ชัดจนเห็นรูขุมขนของจัสมิสและอาละดินเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็มีทั้ง wifi on board ที่เสียบสายต่างๆ เยอะแยะหลายรูจนเลือกไม่ถูก ต้องเปิดกระเป๋าเอาคอมมาชาร์ตให้มันคุ้มๆ

ส่วนอาหาร เขาบอกว่า Singapore Airlines นั้นขึ้นชื่อเรื่องบริการรวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ต้องบอกว่าจริง! บะหมี่ไก่ย่างรสชาติดี๊ดี ย้อนไปตั้งแต่แชมเปญ welcome drink หรือไวน์แดงไวน์ขาวระหว่างไฟลท์ ดีงามพระราม9 จริงๆ


สิทธิพิเศษที่จะได้เมื่อบินกับ Singapore Airlines

1. รับ Pocket WiFi 3D2N ฟรี!

ผู้โดยสารของ Singapore Airlines สามารถไปรับ Pocket Wifi สำหรับใช้งานได้ 3 วัน มาพร้อม data จำนวน 2GB ได้ฟรี! แถมยังจองล่วงหน้าได้ที่ https://sia-free3d2nwifi.hotspot.travel/

และไปรับเครื่องได้ที่เค้าเตอร์ให้บริการ Hotspot ที่โรงแรม Crown Plaza Changi Airport เดินไปได้จากอาคารผู้โดยสาร 2 และ 3 ส่วนใครไม่ได้จองมาก็สามารถไปรับได้เหมือนกัน แต่เผื่อวันไหนคนรู้เยอะก็จองไปก่อน จะได้เชิ่ดได้!

สังเกตุตามป้าย ไปยังโรงแรม Crowne Plaza เดินไปแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น จุดให้บริการอยู่ทางขวามือของทางเข้าโรงแรม


2. บัตรกำนัลมูลค่า $20 สิงคโปร์ และทัวร์สิงคโปร์ ฟรี!

ได้ยินไม่ผิด! ผู้โดยสารของ Singapore Airlines ที่ไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์ จะได้รับบัตรกำนัลมูลค่า $20 สิงคโปร์ต่อคน และหากรอต่อเครื่องตั้งแต่ 5 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง แล้วไม่อยากอุดอู้อยู่ในสนามบิน ไปค่ะ! ไปเที่ยวฟรีกัน แค่ไปลงทะเบียนที่บูธ Free Singapore Tour Registration (ใกล้กับ Transfer Lounge F ในอาคารผู้โดยสาร 2 หรือ Transfer Lounge A ในอาคารผู้โดยสาร 3)

โดยมีทัวร์ให้เลือกหลายโปรแกรม หนึ่งในนั้นมี Jewel tour พร้อมพาเข้า Canopy Park ฟรีอีกต่างหาก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.singaporeair.com/en_UK/th/plan-travel/privileges/free-singapore-tour/


3. แพคเกจ Singapore Stopover Holiday

เมื่อเดินทางกับ Singapore Airlines คุณสามารถแวะเก็บที่ยวสิงคโปร์ก่อนบินต่อไปยังจุดหมายปลายทาง โดยซื้อแพคเกจ Singapore Stopover Holiday ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,400 บาทต่อคน ซึ่งมาพร้อมที่พัก 1 คืน(เลือกโรงแรมได้) และบริการรถรับส่งจากสนามบินสู่โรงแรมฟรี 1 เที่ยว และซิมการ์ด Starhub มูลค่า $10 สิงคโปร์

•ต้องการซื้อแพคเกจสามารถติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายของ Singapore Airlines ได้ที่ 02-652-2000หรือ 02- 308-2104 หรือ 02-123-5050 โดยต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย  72 ชั่วโมงก่อนวันที่คุณเดินทางมาถึงโรงแรม

•ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.singaporeair.com/en_UK/th/plan-travel/packages/singapore-stopover-holiday/


 

HSBC Rain Vortex

The Rain Vortex ทำให้สิงคโปร์กลับมาคัมแบ๊คเป็นประเทศ Top lists ที่คนอยากมาเที่ยวอีกครั้ง เพราะนอกจากไอโฟน 11 ที่คนไทยรุมแย่งตั๋วเครื่องบินมาซื้อแล้ว The Rain Vortex น้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลกสูงสิบชั้นและป่าดงไพรกลางสนามบิน ก็กลายเป็นจุดเช็คอินที่ฮิตที่สุดตอนนี้ จนอยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง ในรูปว่าสวยอลังแล้ว ของจริงสวยกว่าในรูปอีก อยู่ระหว่าง terminal 1 & 3 นอกจากความสวยแล้ว เขาบอกว่าน้ำพุนี้คือที่สุดของฮวงจุ้ย เพราะน้ำตกตกลงและไหลย้อนกลับไม่มีวันหยุด ลึกซึ้งมาก ตอนกลางคืนก็มีการแสดงน้ำตกเล่นไฟ สวยมากจริงๆ

 

Canopy Park

Canopy Park เป็นสวนสาธารณะในร่มอยู่ชั้นบนสุดของ Jewel Changi Airport ใครที่มีเวลาอยากชิลๆในสนามบิน หรือพาลูกเล็กเด็กแดงสนุกสนานได้ทันทีที่ล้อแตะสนามบินชางฮี สวนสาธารณะนี้ตอบโจทย์มากๆ เพราะมีหลายส่วนหลายโซน เช่น

  • Canopy Bridge เดินเล่นบนพื้นกระจกใส ชมสวนชมธรรมชาติ
  • Manulife Sky Nets กระโดดโลดเต้นบนตาข่ายที่มีความปลอดภัยสูงและสนุกมากผู้ใหญ่เล่นได้เด็กยิ่งต้องเล่น
  • Mirror Maze เขาวงกตจำลอง
  • Discovery Slides สไลเดอร์ขนาดใหญ่ยักษ์ผมลองไปเล่นแล้วหลุดกรี้ดจนเด็กๆ ขำกันใหญ่

Changi Experience Studio

CHANGI EXPERIENCE STUDIO  ห้องจัดนิทรรศการ (Visual Experience Studio) ที่โคตรล้ำ! ที่นี่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับของสนามบินแห่งนี้ผ่านเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟ ทั้งประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับสนามบินตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และทิศทางของสนามบินในอนาคต ฟังดูน่าเบื่อแต่ว่ารูปแบบการเล่าคือเหนือเมฆมาก เช่นเอากระดาษเปล่าๆส่องไฟแล้วกระดาษเหมือนมีชีวิตขึ้นมา เล่าเรื่องนู้นนี้ มีผีเสื้อบินไปมา แล้วก็ยังมีมุมถ่ายรูป หรือเกมส์บินแข่งกับเครื่องบินโดยใช้เท้าเราปั่น เหนื่อยจนหน้ามืด หรือจะมีเกมส์แข่งยิ้มสวย ใครยิ้มสวยกว่าชนะ 5555 หลงไปอยู่ในนี้ตั้งนาน

National Kitchen by Violet Oon

National Kitchen by Violet Oon หรือแปลว่า “ครัวแห่งชาติ” ของแม่ครัวชื่อดังที่สิงคโปร์ ร้านนี้รู้จักกันในนามร้านอาหารหรูกลางสนามบิน อยู่ข้างๆกับ HSBC Rain Vortex ที่เดินไปสี่ก้าวก็ถึงเลย เราเลือกมาร้านนี้เพราะการท่องเที่ยวสิงคโปร์แนะนำมา แล้วก็จะได้เดินไปดูโชว์น้ำตกข้างๆได้สะดวกด้วย ร้านนี้เป็นที่นิยมเพราะชอบใช้เลี้ยงต้อนรับแขก(พวกผมก็แขก 555) เมนูที่ดังและแปลก คือ Buah Keluak Ayam หรือแกงไก่ใส่ถั่วจากต้นไม้ ซึ่งเวลากิน ให้ตักไส้สีดำๆในถั่วยักษ์ที่แข็งเหมือนหิน คลุกเข้ากับข้าวสวยร้อนๆ ก่อนจะผสมกับน้ำแกงไก่คล้ายๆมัสมั่น กินกับเนื้อไก่ที่ใส่มาในชาม… ผมทานแล้วก็ยิ้มแหยๆ แล้วไปมูมมามกับ porkchop แทน

บรรยากาศร้านดูดีย์มากๆ

ปิดท้ายโปรแกรมชมสนามบิน JEWEL CHANGI AIRPORT ด้วยการแสดงน้ำตก ถ้าใครเคยไปประเทศแสงสีเช่นมาเก๊า หรือลาสเวกัส บอกเลยว่าการแสดงนี้ เริ่ด!!!! ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ชมฟรีด้วยจ้า

การเดินทาง

• Jewel Changi Airport สามารถเดินจากสนามบินชางฮีไปได้โดยจะอยู่ติดกับชั้นผู้โดยสารขาเข้า terminal 1 หรือจะใช้ทางเชื่อมจาก terminal 2&3 ก็ได้


4. เที่ยวสิงคโปร์อย่างประหยัดด้วย  Singapore Explorer Pass

เทคนิคการเที่ยวสิงคโปร์แบบคุ้มค่า หลายคนรู้ความลับนี้ นั่นก็คือการใช้บัตร Singapore Explorer Pass โดยบัตรนี้ จ่ายแค่ครั้งเดียว สามารถเข้าชม Attractions ที่สิงคโปร์ได้กว่า 20 แห่ง และยังใช้ในร้านอาหารต่างๆ ได้ ลองคำนวณแล้วใช้บัตรนี้คุ้มกว่าเยอะมาก

โดยสามารถเลือกซื้อแบบ 1-Day Pass หรือ 2-Day Pass ซึ่งจะรวม Universal Studios ด้วย  แต่คนที่จะซื้อบัตรนี้ได้นั้นต้องเดินทางกับ Singapore Airlines

ซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเบอร์ 02-652-2000, 02-308- 2104 หรือ 02-123-5050 จองล่วงหน้าก่อน 72 ชั่วโมง

ข้อมูลเพิ่มเติมบัตร Singapore Explorer Pass ดูได้ที่

https://www.singaporeair.com/…/…/packages/explore-singapore/

และถ้าอยากรู้ว่าบัตรนี้พาเราไปได้ที่ไหนบ้าง นี่คือตัวอย่างสถานที่ที่ผมไป..ไปดูกันเลย


Gardens by the Bay

Gardens by the Bay เป็นจุดเช็คอินที่เป็นตัวแทนของธรรมชาติของสิงคโปร์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่า ใครมาสิงคโปร์ต้องมาซักครั้ง ถ้าใครมาหลายครั้งแล้วยังไม่เคยมา ก็ต้องมาแล้วมั้ยอ่ะ… ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ รวมทั้งอาคารเรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนส่วนใหญ่ที่มาจะมาชมสวนภายนอกซึ่งเข้าชมฟรี แต่อยากแนะนำให้ซื้อบัตรเข้าไปข้างในมากกกกก และถ้าใครถือบัตร Singapore Explorer Pass ใช้บัตรนี้เข้าชม Gardens by the Bay ได้เลย จะรู้ว่าโลกอีกโลกเป็นยังไง นอกจากแอร์เย็นแล้ว ยังมีมุมหลายมุมที่แม้ผมมาGardens by the Bay หลายครั้งแล้วก็พึ่งรู้ว่า ด้านในนั้นน่าเที่ยวกว่า สวยกว่า ถ่ายรูปสนุกกว่าเยอะเลย

  

นี่เลย จุดถ่ายรูปที่ว้าวมากๆ ลงโซเชี่ยลคนต้องตื่นตา อยู่ชั้นบนสุดกดลิฟต์ขึ้นมาเลย อาศัยจังหวะคนเดินน้อยแล้วรีบถ่าย ยังไงก็ปัง

ใครถือบัตร Singapore Explorer Pass ใช้บัตรนี้เข้าชม Gardens by the Bay ได้เลย


เกาะ SENTOSA

เกาะ SENTOSA เกาะที่วัยรุ่นลูกเล็กเด็กแดงมาสิงคโปร์ก็ต้องมาให้ได้ เพราะที่นี่ถูกเรียกว่าเกาะแห่งความสุข ไม่สุขได้ยังไง Universal Studio ก็อยู่ในนี้จ้า ใครที่จะมาเกาะเซนโตซ่าแนะนำให้เผื่อเวลาไว้ที่นี่ 1 วันเต็มๆ ไม่งั้นจะเก็บไม่หมด(เช่นฉัน) มาดูดีกว่าว่านอกจากสวนสนุกฮิตๆแล้ว ยังมีอะไรน่าเล่นอีกบ้าง

ขอบคุณภาพจาก singaporetravellers

เราใช้ Singapore Explorer Pass เล่น Skyline Luge Sentosa ก่อนเลย ใครที่ชอบอะไรเสียวๆ เราจะพานั่งขึ้นกระเช้าแล้วขับ Luge ลงมาจากเขา หนึ่งคนเล่นได้ 2 ครั้ง จะมีหลายตรอกหลายซอย ให้งงเล่น แนะนำว่าอย่าไปกั๊กอย่าไปกลัว ปล่อยให้สุด แล้วจะเสียวมากสนุกมากกก อยากเล่นอีกหลายๆ รอบเลยอ่ะ

และเราก็ไปเข้า Trick Eye Museum โดยใช้ Singapore Explorer Pass ใบเดิม บอกเลยว่าพิพิธภัณฑ์ 3D เชยแล้วจ้า เพราะที่นี่คือ Trick Eye Museum 4D เราจะต้องโหลดแอพแล้วความสนุกจะอยู่หลังจอมือถือ ทุกๆ ฉากเมื่อใช้แอพจ่อแล้ว พวกงู จระเข้นิ่งๆ จะกลายเป็น 4D เคลื่อนไหวพร้อมส่งเสียงทันที แนะนำว่าที่นี่ต้องเล่นใหญ่ เจอพวกจระเข้ เหวนรก กังฟู งูยักษ์ คิดสถานการณ์ให้พร้อม กด record video แล้วเล่นให้ใหญ่ เอามาดูคือขำมากกกกกกกก เหนื่อยหอบเลยอ่ะ

ต้องโหลดแอพเขามา แปปเดียวเดี๋ยวสนุก

หลังจากนั้นเราใช้ Singapore Explorer Pass เข้า S.E.A. Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่มีสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ กว่า 100,000 ตัว มากกว่า 1,00 สายพันธุ์ ภายในแท็งก์ที่บรรจุน้ำเอาไว้ถึง 45 ล้านลิตร ซึ่งภายในอะควาเรียมนี้มีทั้งหมด 10 โซน โดยแบ่งเป็นโลกใต้ทะเลในภูมิภาคต่าง ๆ ดาวคณะของที่นี่คือกระเบนราหูตัวใหญ่มหึมา ฉลามหัวค้อน โลมาแสนน่ารัก ฯลฯ


National Museum of Singapore

National Museum of Singapore ใครที่อินประวัติศาสตร์ หรืออยากรู้และสงสัยว่าทำไมประเทศเล็กๆอย่างสิงคโปร์ ไม่มีแม้แต่ทรัพยากรเป็นของตัวเอง จะกลายเป็นประเทศที่เป็นผู้นำทั้งด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค ASEAN และยังเป็นประเทศที่น่าอยู่เป็นอันดับต้นๆของโลก หูวว พูดขนาดนี้ก็ต้องลองไปดูแล้วนะ เพราะคุณจะได้คำตอบจากที่นี่ สังเกตว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่ใส่ใจกับการนำเสนอความเป็นมาของตัวเองมาก เพราะฉะนั้นมันไม่น่าเบื่อ และยังมีโชว์ศิลปะ แสงสีเสียงต่างๆ บอกเลยว่าเริ่ด! สามารถใช้บัตร Singapore Explorer Pass ได้ด้วยนะ


Singapore Flyer

Singapore Flyer เป็นชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก หรือถูกเรียกว่าเป็น London Eye ของเอเชียเลย ชมวิวเมืองสิงคโปร์ในมุมสูงแบบ 360 องศา เป็นเวลา 30 นาที ช่วงแรกๆ ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอค่อยๆ สูงแล้วค้างอยู่บนจุดสูงสุดนี่อย่างฟิน อย่างรูปนี้ของจริงสวยกว่าอีก ใครจะมาสวีทเป็นอีกที่ที่แนะนำให้พาคู่ของคุณมาดื่มด่ำวิวสิงคโปร์ด้วยกัน ถ้าใครถือบัตร Sinapore Explorer Pass ก็ใช้บัตรเข้ามาชมวิวได้เลย ดีเว่อร์!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ singaporeflyer.com


นอกเหนือจากนี้ ผมจะพาไปเปิดโลก Singapore แบบ Unseen รับรองว่าหลายที่คุณยังไม่เคยไป! แต่สถานที่เหล่านี้ไม่รวมอยู่ใน Singapore Explorer Pass นะ

Vespa Singapore

Vespa Singapore ชมเมืองสิงคโปร์ด้วยรถเวสป้า ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่อันซีนและโคตรเปรี้ยวจากสิงคโปร์ พึ่งมีมาได้ไม่นาน เราไม่ได้ขี่เองนะ จะมีมืออาชีพขับให้ แล้วคือพวกเขาชวนคุยสนุกมาก พาแวะนั่นนี่ ถ่ายรูปเก่งมากด้วยจ้า เราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะนั่งเวสป้ากี่ชั่วโมง อยากไปเส้นไหน เห็นว่ามีทัวร์แบบตามรอยหนัง Crazy Rich Asian ด้วยนะ แต่แนะนำว่าถ้าไม่นั่งเช้าไปเลย ก็เย็นๆหน่อย หรือกลางคืนไปเลยก็ได้ เพราะคงไม่อยากโดนปิ้งกลางถนนหรอกใช่มั้ย

ค่าเสียหายแอบเจ็บอยู่ ประมาณ $180 สิงคโปร์ / 1 ชั่วโมง หรือประมาณ 3,900 บาทต่อชั่วโมง

จองได้ที่ https://www.sideways.sg/tours/

 

 


Floating Donut

ล่องเรือ Floating Donut ชมวิว Marina Bay …ใครที่เบื่อการมาชมตึก Marina Bay ริมแม่น้ำ พ้ากกกกก!! มานี่เลยจ้ะ มาเช็คอิน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกบนเรือรูปทรงโดนัท จิบเครื่องดื่มค็อกเทล โรแมนติกมากกก unseen มากๆ เชื่อว่าน้อยคนที่จะเคยมีประสบการณ์แบบนี้ เพราะพึ่งมีได้ไม่นาน ราคาก็ไม่แพง และนั่งได้หลายคน ใครอยากพาคู่รักมาสวีท หรือมาขอแต่งงานคงน่าอิจฉาน่าดู  สามารถซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือ(ขวาสุด)ได้ หรือจะซื้อตั๋วไปก่อนจากแอพท่องเที่ยวที่คุ้นเคยก็ได้

ปล. ไม่แนะนำให้ล่องเรือตอนกลางวันหรือตอนบ่าย เพราะอาจจะไม่โรแมนติกแต่อาจไหม้ได้… แต่ฝรั่งชอบนะ

เวลาทำการ:
วันจันทร์: 13:00-21:30 น. (ขึ้นเรือก่อนเวลา 20:30 น.)
วันพุธ: 16:00-21:30 น. (ขึ้นเรือก่อนเวลา 20:30 น.)
วันพฤหัสบดี-อาทิตย์: 13:00-21:30 น. (ขึ้นเรือก่อนเวลา 20:30 น.)

สวีทป่ะหล่ะ…


LOKKEE

ร้านอาหาร LOKKEE เป็นร้านอาหารที่ดังมากๆๆๆๆๆของสิงคโปร์ หรือจะเรียกว่าดังในหมู่คนไทยด้วยก็ได้ อยู่บนห้าง Plaza Singapura ในย่าน Orchard ใครมาสิงคโปร์อยากให้มาทานมากๆ ประทับใจตั้งแต่ผ้าเช็ดมือที่ออกแบบเหมือนซองถุงยาง กลายเป็นของฝากที่ผมประทับใจที่สุดในสิงคโปร์เลย 5555 และเมนูแต่ละเมนูก็อลังการตามภาพเลย เมนูฮิตๆก็จะมีเนื้อตุ๋นในสัปปะรด เขาจะจุดไฟลุกท่วมทั้งสัปปะรดก่อนทาน ทุกคนจะกรี้ดกร้าดเอามือถือมาถ่ายกันใหญ่ หรือเมนูซุปปลาคอลลาเจน แค่ได้อ่านชื่อเมนูก็รู้สึกผิวเด้งแล้วอ่ะ แถมซุปอร่อยมากๆ ยังอยากกลับไปทานเลยเนี่ย

ใครจะไปคิดว่า เดินทางกับ Singapore Airlines จะได้สิทธิพิเศษ ทั้งสนุก และคุ้มค่าได้ขนาดนี้ แต่การเดินทางกับ Singapore Airlines ยังไม่จบแค่นี้หรอกครับ ทริปต่อไปจะเป็นที่ไหน อย่าลืมติดตามนะครับ 🙂

เขียน ฉอฉอ ไปอยู่ไหนมา

แอดมินสุดน่ารัก เจ้าของเพจไปอยู่ไหนมา