12 ร้านคาเฟ่และขนม ห้ามพลาดในโตเกียว

นับตั้งแต่ที่ประเทศญี่ปุ่นฟรีวีซ่าให้กับคนไทย ก็ถือว่าเป็นประเทศยอดฮิต Top 3 ที่ใครๆก็ต้องไปสัมผัสโดยเฉพาะโตเกียวเมืองที่รวบรวมทุกอย่างไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องขนมและคาเฟ่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไปโตเกียวแล้วพลาดไม่ได้ วันนี้แอดเลยรวบรวม 12 ร้านคาเฟ่และขนมที่น่าสนใจเหมาะสำหรับเพื่อนๆที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะครับ

Special Thanks to  Ploybood สำหรับข้อมูลและภาพสวยๆ และแคปชั่นเก๋จากประสบการณ์จริงที่ได้ไปลิ้มลองมา

1.Onibus Coffee | Nakameguro | รถบัส และบ้านกล่องกาแฟ

เดินจากหลังสถานี NakaMeguro  เลี้ยวมานิดเดียวก็เจอร้าน Onibus Coffee เป็นบ้านกล่องหลังจิ๋ว มีป้ายโลโก้รูปรสบัสให้สังเกต มีที่นั่ง outdoor ฮิปๆ และที่นั่ง indoor ชั้นบน บ้านกล่องตกแต่งน่ารักด้วยเฟอร์ไม้ดิบๆ และใบไม้เขียวๆ บาริสต้าหนุ่มวัยรุ่นใจดีพยายามชวนคุยด้วยภาษาอังกฤษ พร้อมแนะนำเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์อย่างละเอียดและใจเย็น

หลังจากแอบสังเกตว่าในโถเมล็ดกาแฟจาก Columbia เหลืออยู่น้อย (แสดงว่าคนสั่งเยอะสินะ แฮ่ คิดเอาเอง)  และบาริสต้าแนะนำว่าเป็นเมล็ดที่มีกลิ่นโกโก้  จึงเลือก Columbia Hand Drip… ยืนดูการ drip อย่างพิถีพิถัน ไม่นานนักก็ได้เครื่องดื่มเย็นชื่นใจมาหนึ่งแก้ว อร่อยเชียวล่ะ รสชาติกลมๆ lightๆ เจือรสเปรี้ยวแกมแต่ไม่หนัก จัดว่าดี สดชื่นเหมาะกับเช้าอันสดใสในโตเกียว

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00 – 18:00

รถไฟฟ้า : Naka-Meguro


2.Johann cheese cake | Nakameguro | cheese cake สุดฟินริมคลองร่มรื่น

เดินตามถนน NakaMeguro เลียบคลอง Meguro ชื่นชมธรรมชาติร่มไม้และเสียงจักจั่นริมคลองไปเรื่อยๆ แสนชิวและสุนทรี จริงๆ ชักจะหิวต้องหาของหวานรองท้องซะหน่อย ก็เลยพาตัวเองมาหยุดอยู่หน้าร้าน Johann Cheese Cake 🍰  เป็นร้านเค้ก homemade เล็กๆแคบๆ มีคุณป้าหน้าตาใจดียืนประจำการอยู่หนึ่งคน ในตู้มีชีสเค้กวางอยู่แค่สามสี่แบบ คือ original, original หวานน้อย , blueberry กับอะไรอีกอย่างจำไม่ได้ ดูน่ากินไปหมด

เลือกตัว original หวานน้อยมา และพบว่ามันเด็ดมากกกกกก  ตัวชีสเค้กเนียนนุ่มละมุนและหอม  ชีสไม่หนักไม่เบาเกิน กินแล้วกำลังพอดี ไม่ตึ้บ ไม่เลี่ยน มีแกลมเปรี้ยวเลมอนเล็กๆ แต่ไม่แหลม คือรสชาติผู้ดีมาก สัมผัสก็เบาสบายแบบที่กินแล้วอยากกินอีก ที่สำคัญไม่แพงด้วย 380¥ โอ๊ยยยยย กินเสร็จหลับตาพริ้ม อยากกินอีกชิ้นทันที

ในร้านไม่มีที่นั่ง ทำให้ได้ซื้อออกมานั่งชิวริมคลองด้านนอก ถนนเลียบคลองจะมีม้านั่งไม้วางตัวอยู่เป็นระยะ นั่งกินชีสเค้กใต้ร่มไม้เย็นสบายในบรรยากาศแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจ 😋 รักป้า Johann

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 – 18:30

รถไฟฟ้า : Naka-Meguro


3.Suzukien x Nanaya Gelato shop | Asakusa  | 7 shades of green matcha & the darkest matcha in the world!

มาโตเกียวครั้งนี้ยังไงต้องได้กิน Matcha ที่เข้มที่สุดในโลก.. 😋 ร้านนี้อยู่หลังวัด Asakusa คนไม่พลุกพล่านเหมือนหน้าวัดเลย จะมีก็แต่คิวที่ยาวล้นออกมาจากร้านนี้นี่แหละ

Nanaya เป็นร้านชาเขียวชื่อดังจากชิซุโอกะ เมื่อต้นปีนี้เพิ่งมาเปิดสาขาที่โตเกียว สบายล่ะสิ ร้านเค้ามี Matcha Gelato ที่ทำไล่ลำดับความเข้มข้นถึง 7 level ดูตามระดับสีเขียวในตู้ได้เลย ว่ากันว่า level 7 คือ Matcha ที่เข้มที่สุดในโลก ตอบโจทย์คนคลั่งชาเขียวอย่างเรามาก

ลองสั่งมาสามอย่าง Matcha Gelato lv.4 กับ lv.7 มาเทียบกัน และ Hojicha Gelato

lv.4 จะมีความหวานปนความเข้มของชาเขียวเหมือนไอติมมัทฉะส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น แต่ lv.7 คือเข้มปี๊ดดดด dark มากกกกๆ สะใจ บางคนอาจจะบอกว่าขมเลยแหละ ความเข้มแทบจะกลบรสหวานทั้งหมด ถูกใจคอ Matcha แน่ๆ
ความเซอร์ไพรส์อยู่ที่ Hojicha Gelato ทีสั่งมาลองเล่นๆ อร่อยมากกกก มากๆๆ อันนี้ไม่มีระดับให้เลือก ปรุงมาเข้มข้น หอมหวานพอดิบพอดี กลิ่นชาหอมมาก โคตรดีเลย หลงรัก

ใครซื้อออกมากินหน้าร้านให้หันขวาจะเจอ Tokyo Skytree เป็นฉากให้ถ่ายรูปด้วยนะ
ร้านเปิดถึงแค่ 5pm ใครจะไปต้องรีบหน่อยระวังจะหมดก่อนและต้องเผื่อเวลาเข้าคิวด้วยนะ ได้ข่าวมาว่าตอนนี้เปิดอีกสาขานึงในโตเกียวแล้วด้วยล่ะ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:30 – 17:30

รถไฟฟ้า : Asakusa


4.Café Kitsune | Aoyama-Omotesando | คาเฟ่ญี่ปุ่นในแบรนด์ฝรั่งเศส  

เดินจากถนนใหญ่เข้าซอยมาไม่ไกล ก็จะเจอแผงไม้ไผ่ชิคๆ กลิ่นอายญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้ว Kitsune นี่เป็นแบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศสนะเออ ในร้านตกแต่งโทนไม้สีอุ่นๆ แนวห้องชาญี่ปุ่นแบบร่วมสมัย มีชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้เล็กๆหลายชุดไว้ต้อนรับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นบรรดาแม่บ้านญี่ปุ่นมาจับจองพื้นที่นั่งอ่านหนังสือกันอย่างเรียบร้อย ช่างมีความสงบ ความโฮมมี่ แบบมินิมอลยิ่งนัก

ถ้ามาช่วงเช้าที่นี่จะมีเมนูอาหารเช้าขายด้วยนะ แต่ไปบ่ายเลยได้กาแฟมาแทน Iced americano ที่นี่แสนชื่นใจ รสชาติกลมกล่อมดีงาม กินง่ายสบายดี ไม่มีพิษภัย เอาออกมานั่งจิบ outdoor ก็สดชื่น

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00 – 20:00

รถไฟฟ้า : Omote-Sando


5.Blue Bottle Coffee | Aoyama-Omotesando | กาแฟขวดสีฟ้า ร้านดังประจำโตเกียว

ร้านนี้เป็นร้านกาแฟชื่อดังจากซีกโลกตะวันตก เมือง Oakland และมีสาขานั่นโน่นนี่อีกมากมายใน USA อยู่ดีๆวันนึงก็ตัดสินใจมาเปิดสาขาใน Tokyo และกำลังจะเปิดเพิ่มอีกหลายสาขาปลายปีนี้ด้วย เค้าว่าช่วงแรกๆที่ร้านเปิดใหม่มนุษย์โตเกียวแห่กันมาต่อคิวกันหลายชั่วโมงเพื่อกาแฟโลโก้ ขวดสีฟ้าสุดชิคนี่กันเลยแหละ

ในร้านจะเรียบๆ loftๆ แนว factory พร้อมทีมงานบาริสต้าในเสื้อ denim คูลๆ และอุปกรณ์เครื่องกาแฟล้ำๆวางเรียงรายให้ตื่นตาตื่นใจเต็มไปหมด แบรนด์นี้มีคอนเซปต์ว่า ลูกค้าทุกคนจะต้องได้กินกาแฟจากเมล็ดกาแฟที่คั่วไม่เกิน 48 ชั่วโมง เพราะเป็นช่วงเวลาที่กาแฟกลิ่นดีที่สุด

เหลือบเห็นเมนูนึงชื่อ New Orleans Iced บา ริสต้าแนะนำ ว่าเป็น cold-brewed ใส่นม ดูน่าสนใจดีเลยจัดมาลอง รสและกลิ่นมันต่างจาก Latte มากเลยล่ะ มันนุ่มๆ กลมๆ smooth และดูปรองดอง แต่มีกลิ่นอะไรบางอย่างที่มาเบรคได้แบบมีสไตล์ มีความ alternative อะไรขนาดนี้ เลยไป  search ข้อมูลพบว่ามันคือ cold-brewed 12 hr ปรุงด้วย chicory และน้ำตาลอ้อย ตัดด้วย whole milk จนได้ออกมาเป็นรสกลมกล่อมเช่นนี้…นี่เอง  New Orleans Iced แบบใส่กล่อง take home ก็มีนะเออ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 8:00 – 19:00

รถไฟฟ้า : Omote-Sando


6.Coffee Shozo | Aoyama-Omotesando | กระท่อมช้าง

เดินลงมาจาก Blue Bottle Coffee ก็เจอคาเฟ่อีกร้าน เป็นกระท่อมไม้เขรอะๆ กรังๆ แต่ดูน่ารักมาก 🌻🏠 ข้างในกระท่อมก็ตกแต่งสีอ่อนๆ บุบิ และพื้นที่เล็กจิ๋ว หมุนตัวสองรอบคือเต็มร้าน พนักงานบอกว่าห้ามถ่ายรูปในร้าน ที่เคาน์เตอร์มีวางขายทั้งขนม คุกกี้ต่างๆ สโคน และของดังเค้าคือ Latte แต่เพิ่งกินกาแฟมาล่ะ ขอลองเมนูอื่นบ้างเนอะ

เลือก Ginger soda 🍹 ติดมือมาหนึ่งแก้ว  โซดาขิงเย็นฉ่ำ หวานอ่อนๆ ขิงเข้มๆ เผ็ดเบาๆ แซ่บซาบซ่า  โคตรดีมากกกๆ ในสภาพอากาศ Tokyo summer sonic แบบนี้ มันสดชื่นมากเลย บินนนนนน ยกให้เป็นอีกเมนูเครื่องดื่มโปรดเลย 😋

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันจันทร์,พุธ-ศุกร์ ตั้งแต่ 9:30 – 19:00 และเปิดเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 11:00 – 19:00

รถไฟฟ้า : Omote-Sando


7.Dominique Ansel Bakery | Omotesando | ร้านขนมที่ขอจัด rank ให้อร่อยที่สุดในทริป

ปีนขึ้นเนิน Omotesando เข้าซอยมาก็มองเห็นกลุ่มคนเข้าคิวกันอยู่ไกลๆ ใช่แล้วล่ะ นั่นต้องเป็นคิว Dominique Ansel แน่ๆ
ร้านนี้เปิดตัวในย่าน Soho ที่ New York หลายปีที่แล้ว ดังระเบิดมากกับขนมที่ชื่อ Cronut  จากนั้นก็ไปเปิดสาขาที่  London แล้วคุณโดมินิคก็ตัดสินใจมาเปิดสาขาที่ Tokyo เมื่อปีที่แล้วนี่เอง กระแสถล่มทลายอีกเช่นกัน แถมยังติด Top5 ร้านขนมใน Omotesando ด้วยนะเออ ขนมของเค้าเทพสุดๆ จนมีคนกล่าวว่า ขนมของคุณโดมินิคคุ้มค่าทุกการยืนรอคิว

ดูจากความแน่นของมวลชนภายในร้านก็การันตีความดังและเทพของเค้าได้ละ ไม่ต้องหวังจะนั่งกินในร้านเลยจ้าไม่มีที่ว่าง
ระหว่างเข้าคิวรอสั่ง order จ่ายเงิน และรอเรียกรับขนมราวครึ่งชั่วโมง เราก็จะได้เดินผ่านตู้เบเกอรี่ละลานตาน่ากินเต็มไปหมด 😋

พระเอกของวันนี้  Cookie Shot เมนูนี้หน้าตาน่าสนใจมาก presentation ล้ำ ต้องขอทำความรู้จักหน่อย หน้าร้านติดป้ายว่า Cookie Shot จะเสิร์ฟ 3pm เป็นต้นไปเท่านั้น โชคดีที่มาพอดีเวลาเลยไม่ต้องรอนาน Cookie Shot เป็นการนำ chocolate chip cookie มาทำเป็นแก้วแล้วเท Vanilla milk ลงไปจนเต็ม เวลากินจะสนุกมาก คือจะต้องแอบดื่มนมไปนิดนึงก่อนแล้วกัดแก้วคุกกี้ตาม ไม่งั้นนมจะหก เป็นขนมที่มีความขี้เล่น

ส่วนนางเอกวันนี้คือ Frozen S’MORES อีกเมนูดังระดับ must eat ของที่นี่ ความเด็ดมันเริ่มตั้งแต่พนักงานจะเรียกคิวคุณมารับขนม แต่เค้าจะยังทำไม่เสร็จนะ เค้าจะเอาเจ้า S’MORES นี่มาเบิร์นต่อหน้าให้ได้ร่วมลุ้น ดูเพลินๆ ถ่ายรูป ถ่ายคลิปกันไปด้วย ทำเสร็จก็เสิร์ฟเลย 😋โอ้โฮ  ดูสนุกชะมัด เจ้า Frozen S’MORES มันคือมาร์ชเมลโล่รสน้ำผึ้งที่นำไปเบิร์น ทำให้ได้รสชาติ หวานๆ นุ่มๆ หอมๆ อุ่นๆ ข้างในอัดแน่นไปด้วยไอติมวนิลลารสชาติละมุนละไมที่หุ้มด้วยเกล็ดคุกกี้ชอคโกแลตกรุบกริบ เวลากัดแล้วได้สัมผัสทั้งสามชั้นมันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก
พีคมากกกกกก น้ำตาจะไหล ทั้งหน้าตาขนม ทั้งการ present ทั้งรสชาติ ทั้งวิธีการกิน ทั้งราคา  55555 ค่อนข้างแพงแต่รู้สึกว่าคุ้มค่า ชอบมาก ตื้นตัน กินแล้วอยากตีลังกา 🏆 ยกให้เป็นร้านขนม rank no.1 ของทริปเลย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 – 19:00

รถไฟฟ้า : Omote-Sando


8.The Roastery by Nozy Coffee | Cat street | คาเฟ่ฮิปถนนแมว

ลองไปเดินหาแมวที่ถนนแมว ไม่เห็นเจอสักตัว เจอแต่มนุษย์ Harajuku ออกมาเดินแฟชั่นกัน แล้วก็ดันไปเจอร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ฝรั่งล้นทะลักออกมานอกร้าน จึงต้องตามเข้าไปส่องดู บรรยากาศ ฮิปๆ คูลๆ จะนั่งข้างในดูวิวฝรั่ง หรือจะ outdoor ดูสาวฮาราจูกุผ่านไปมาก็ไม่เลว

ที่นี่มี Softcream🍦 รส Latte ด้วย ต้องลองซะหน่อย มันก็คือSoftcream  รส espresso กับ รส milk แบบทูโทนนั่นเอง รสนมออกจะธรรมดา แต่รสกาแฟอร่อย เข้มข้นหอมกาแฟมาก จนเวลากินพร้อมกันรสกาแฟจะเข้มกลบรสนมเลย ที่สำคัญคือไม่หวาน และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ item ที่วางล่อไว้เต็มร้านเค้าล่ะ เจ้าขวด Coffee Porter นี้ เค้าว่านี่ไม่ใช่แค่เบียร์รสกาแฟนะ แต่มันคือ Amber ale ที่ใส่ caramel และ chocolate malt หวานหอมที่มาพร้อมรส sharpๆ จากกาแฟของแบรนด์ Nozy ด้วย ใครเป็นคอเบียร์พลาดไม่ได้เลยนะ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 – 22:00 ยกเว้นวันอาทิตย์ปิด 21:00

รถไฟฟ้า : Meijijingu-Mae


9.Afternoon Tea TEA STAND | Omotesando | สลัดยามบ่าย และสมูทตี้ดอกไม้

อีกร้านฟรุ้งฟริ้งแนวแม่บ้านญี่ปุ่นจิบชายามบ่ายที่เต็มไปด้วยผู้หญิง ร้านนี้มีเมนูอาหารทั้ง salad, pasta, soup, omelette, pho ดู healthy และสวยงาม เน้นดอกไม้โปรยปราย เหมาะกับมื้อสวยๆสาวๆ ไม่เบาไม่หนักมากเกินไป ดังนั้นขอสั่งเมนูสวยๆหญิงๆ สักจาน

เลือกสลัดสำหรับมื้อบ่ายนี้ Spring Chopped Salad เป็นสลัดไก่ โปรยสตรอเบอร์รี่ และ ผัก-คุ-ชี เดรสซิ่ง ตามกระแสผักชีสุดฮิตในญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมซุปข้าวโพดรสชาติละมุนละไม และขนมปังเนื้อหนึบอีกก้อน

และ ที่อร่อยประทับใจมากๆ คือเครื่องดื่มชื่อยาวๆว่า Milk, Herbs, Flowers Fairy’s Tea : Strawberry Rose Mint Smoothie คือเอาเครื่องปรุงที่ใส่มาเรียงกันเป็นชื่อเมนูนั่นเอง ถถถถ มันก็สมูทตี้สตรอเบอร์รี่นั่นแหละ แต่หอมดอกไม้มากๆ เพราะโรยกุหลาบมาเป็นกลีบ และสดชื่นด้วยกลิ่นมินท์ หวานน้อย เย็นชื่นใจ ชอบมาก พักจากความเข้มๆของกาแฟแมนๆได้เป็นอย่างดี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 11:00 – 20:00 และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 11:00 – 20:00

รถไฟฟ้า : Omote-Sando


10.365 | Yoyogi-koen | ร้านขนมปังในฝัน

ร้านนี้ดังเพราะเคยลงหนังสือญี่ปุ่นไรสักอย่างมั้ง เกินครึ่งห้องแคบๆนี่เป็นตู้โชว์ขนมปังฟูๆ สีทองอร่าม ที่ดูน่ากินเต็มไปหมด อีกด้านนึงเป็นบาร์ไม้ยาวๆ ไว้ให้นั่งกินขนมปังกับนม กาแฟ หรือน้ำผลไม้ 😌🍞🍼🍹 โอ๋ยยยยย ดีอ่ะ ชอบ อยากให้มาเปิดหน้าบ้าน

และสิ่งที่มาตามหาคือ クロッカンショコラ Croquant Chocolate เป็นขนมปังก้อนกลมที่ผากลางยัดไส้ชอคโกแลตไว้เต็ม เพิ่งเคยรู้จักขนมปังหน้าตางี้ มีความทองคำเปลวแปะไว้ด้วย ชิ้นเล็กๆแค่นี้ แต่ราคาไม่เล็กนะครับ

ทีเด็ดคือตรงเม็ดๆ chocolate จะคล้ายๆ ข้าวพองรสชอคโกแลตเข้มข้น มันจะเป๊าะแป๊ะกรุบกรอบตอนเคี้ยว ส่วนตัวขนมปังก็นู่มมมมฟูมาก พร้อมครีมชอคโกแลตรสเข้มข้นสอดไส้อยู่ตรงกลางลึกลงไปข้างใน . . . กรี๊ด ถูกจริตมาก อร่อยจัง

ที่นี่ยังมีขนมปังเด็ดอีกหลายตัวที่น่าสนใจ ไว้ไปอีกต้องกลับไปลองให้ได้เลย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 7:00 – 19:00

รถไฟฟ้า : Yoyogikoen


11.Fuglen | Yoyogi-koen | vintage norwegian’s wood in tokyo

มาตามคำแนะนำของบาริสต้าร้านกาแฟอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นร้านกาแฟดังอีกหนึ่งร้านประจำโตเกียว ดูเหมือนจะมีร้านแม่อยู่ที่ Oslo ประเทศ Norway ตกแต่งแนว 50’s Vintage Scandinavian style แม้แดดหน้าร้อนของโตเกียวจะแผดเผาแต่โซน outdoor หน้าร้านก็ยังคงมีประชาชนชาว caffeine addict มานั่งอาบแดดบ่ายกันเรื่อยๆ ที่นี่มีเมล็ดกาแฟ Single Origin ที่คั่วส่งให้ร้านกาแฟอีกหลายร้านในโตเกียว ตกเย็นร้านจะเปลี่ยนเข้าสู่ cocktail bar mode อีกด้วยล่ะ มีความฮิปคัลเจ้อ
ลองสั่งอะไรเย็นๆมาดับร้อน และพบว่า iced americano มีความเปรี้ยว เวรี่เปรี้ยว เปรี้ยวอะล้อต น่าจะเป็นความนิยมกาแฟรสแนว fruity ของชาวฮิปโตเกียวกัน  บ่าย ๆ เพลีย ๆ นี่สดชื่นสะดุ้งตาโตเชียว

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันจันทร์-อังคารตั้งแต่ 8:00 – 22:00 / พุธ-พฤหัสบดีตั้งแต่ 8:00 – 1:00 / ศุกร์ตั้งแต่ 8:00 – 2:00 / เสาร์ตั้งแต่ 10:00 – 2:00 และอาทิตย์ตั้งแต่ 10:00 – 0:00

รถไฟฟ้า : Yoyogikoen


12.Little Nap COFFEE STAND | yoyogi-koen | กล่องสีเทาที่ควรใช้เวลาอ้อยอิ่ง

ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางมหานครโตเกียว แอบมีร้านกาแฟแสน cozy มีสไตล์ สงบร่มเย็น และเป็นกันเอง หลบอยู่ในถนนสายเล็กๆ ที่ขนาบด้วยรั้วต้นไม้ร่มรื่นสองข้างทาง ซ่อนตัวจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี… แหม่ บรรยายไปโน่น แต่ก็เป็นงั้นจริงๆแหละ

นอกจากหน้าตาร้านรูปกล่องสีเทาเข้มจะฮิปและมีเอกลักษณ์แล้ว ข้างในร้านก็โคตรคูล ภายในกล่องสีเทาพื้นที่ไม่มากนัก ด้านนึงบรรจุเคาน์เตอร์วางโชว์ to-go product ต่างๆนานาและขนมปังน่ากินหลายอย่าง มีบาริสต้าหนุ่มที่ดูกระตือรือร้นง่วนอยู่หลังเครื่องชงกาแฟ Synesso ตัวสวย อีกฟากหนึ่งเป็นที่นั่งบาร์สำหรับลูกค้า หันเข้ากระจกมองออกไปหน้าร้านได้ เครื่องเสียงวินเทจถูกจัดวางไว้ แสดงความเป็น music lover ของเจ้าของร้านเป็นอย่างดี ชวนนึกถึงฉากบาร์เท่ๆในหนังฝรั่งสักเรื่อง

ที่นี่ไม่ได้มีแค่กาแฟนะ ยังมี icecream และเมนู kid’s drinks แบบเบาๆอีกด้วย 🍦🍹 ได้ Iced americano มาหนึ่งแก้ว จัดว่าดี หอมแบบไม่เข้มเกินไป ชอบเลย ยิ่งได้เอาออกมานั่งจิบหน้าร้านนี่เป็นอะไรที่ฟินแท้ เครื่องดื่มที่นี่ราคาน่ารักถูกกว่าหลายๆร้านด้วย

ที่นี้ก็ได้รู้ละว่าทำไมเป็นร้านกาแฟแต่ชื่อ little nap อยากจะแวะพักผ่อนหย่อนใจสัก nap จริงๆ ใครไปก็อย่าลืมถ่ายรูป signature กล่องสีเทาหน้าตรงไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00 – 19:00

รถไฟฟ้า : Yoyogikoen หรือ Yoyoki-Hachiman