รีวิว Business class ของ Oman Air
สวัสดีครับแอดฟิล์มขอรับเป็นเพื่อนเที่ยวพาทุกท่านไปขึ้นเครื่อง Boeing 787 Dreamliner ของโอมาน แอร์ (Oman Air) หลายครั้งผมมักจะเจอคำถามว่า ตั๋วโปรโมชั่น ชั้นโดยสารธุกิจ (Business class) ของโอมาน แอร์ (Oman air) น่าสอยมั้ย มันดีรึเปล่า ยิ่งบางทีไปยุโรปเพิ่งจะ 50,000 กว่าบาทเอง หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยตอบคำถามและช่วยในการตัดสินใจให้กับทุกท่านได้นะครับ
ที่นั่งแบบ APEX Suite
เครื่องบินแบบ Boeing 787 Dreamline ของสายการบินโอมาน (Oman air ) จะมีการติดตั้งที่นั่งอยู่ 4 แบบ คือ
– B787-8 V1 แบบ 2 ชั้นโดยสาร (Business 18-Economy 249)
– B787-8 V2 แบบ 2 ชั้นโดยสาร (Business 30-Economy 204)
– B787-9 V1 แบบ 2 ชั้นโดยสาร (Business 30-Economy 258)
– B787-9 V2 แบบ 3 ชั้นโดยสาร (First 8-Business 24-Economy 232)
เครื่อง Dreamliner ถือว่าเป็นเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุดในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารมาก วัสดุ Composite ที่ใช้ทำตัวเครื่องบิน มีความแข็งแรงมากกว่าโลหะแบบเดิม ทำให้น้ำหนักเครื่องบินเบาลง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น วัสดุ Composite สามารถขึ้นรูปลำตัวเครื่องบินเป็นชิ้นใหญ่ทีเดียวได้ ทำให้มีรอยต่อของวัสดุน้อย ส่งผลให้ลำตัวเครื่องแข็งแรง ทนแรงกดอากาศได้มากขึ้น ระบบปรับความดันอากาศและความชื้นในห้องโดยสารจึงทำได้ดีมากขึ้น ดังนั้นเวลาบินกับ Dreamliner ปัญหาผิวแห้ง ปากแห้ง รู้สึกไม่สบายก็จะลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ รอยต่อน้อยลงเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามายังห้องโดยสารก็เบาลง และยังมีการออกแบบเครื่องยนต์พิเศษที่ลดเสียงดังของเครื่องยนต์ขณะ Take-off, Landing, Cruising
สำหรับลำที่มารับผมในวันนี้คือ B787-9 V1 แบบ 2 ชั้นโดยสาร โดยมีที่นั่งชั้นธุรกิจทั้งสิ้น 30 ที่นั่ง
และเพื่อให้ห้องโดยสารรู้สึกโปร่ง โล่ง สะดวกสบาย ที่เก็บของเหนือศีรษะจะมีเฉพาะด้านข้างเท่านั้น แถวกลางจะโปร่งถึงเพดานเครื่องบินครับ
ที่นั่งกว้างขวาง พร้อมหมอนนิ่มสบาย บริเวณช่องด้านข้างระหว่างที่นั่งจะมีฉากกั้นไฟฟ้า สามารถกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้หากเดินทางคนเดียว ที่นั่ง APEX suite นี้ บางสายการบินใช้ในห้องโดยสารชั้นหนึ่งด้วย
ชั้น Business Class ของสายการบินโอมาน (Oman air ) ทุกที่นั่งจะเป็น Aisle direct access ได้จากทุกที่นั่ง จะเห็นว่าที่นั่งริมหน้าต่างด้านใน ก็สามารถเดินออกมาสู่ทางเดินตรงกลางได้ โดยไม่ต้องข้ามที่นั่งแถวริมทางเดินเลย
ที่นั่งสามารถปรับเป็นที่นอนราบได้ 180 องศา พร้อมผ้าปูเตียงและผ้านวมหนาครับ
กระจกด้านข้างเป็นระบบปรับแสงไฟฟ้า เป็นเอกลักษณ์ของ Dreamliner เค้า จริงๆปรับให้มืดสนิทกว่านี้ได้ แต่ในภาพผมปรับให้แสงเข้ามาบางส่วน เพื่อถ่ายภาพ
ผมสูง 176 cm ยืดเหยีดกลิ้งซ้ายขวาได้ ยังมีที่อีกเหลือๆ
สายการบินโอมาน เสิร์ฟอาหารอะไร?
เครื่องดื่ม Welcome drink เป็นน้ำ Lemon and lime แต่จริงๆ Signature drink คือ Lemon mint นะครับ วันที่ผมบิน Ground staff ไม่ได้ load lemon mint ขึ้นมาด้วย
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งสายการบินตะวันออกกลาง คือ Arabic coffee การแฟหอมกลิ่นเครื่องเทศ ทานคู่กับอินทผาลัม หวานหอมคาราเมลสุดๆ
ลูกเรือจะเสริฟ Arabic coffee ก่อนเครื่องออก
และตามด้วยอินทผาลัม อยากจะโกยมาเลยทั้งกล่อง
อินทผาลัมนี้เป็นเกรดพรีเมี่ยมนะครับ อร่อยกว่าที่ขายเป็นกิโลๆ ในบ้านเรามาก
Wine list และ เมนูอาหารประจำเที่ยวบินครับ
สำหรับเที่ยวบิน กรุงเทพ-มัสกัต-กรุงเทพ ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง Oman air เสริฟอาหาร 2 มื้อหลัก ตกใจมาก เท่ากับว่าเราจะต้องกินอาหาร 2 มื้อใหญ่โดยมีระยะเวลาเว้นระหว่างมื้อเพียง 1.30 ชั่วโมงเองครับ แน่นมากจริงๆ แต่เราสามารถเลือกไม่ทานก็ได้ ส่วนผม รับมาครบทุกมื้อครับ เพื่อนำมา review ให้เพื่อนๆ ชม ตัวแทบแตก
เทียบกับสายการบินอื่น ระยะเวลาบินเท่านี้มักจะเสริฟ 1 มื้อหลัก และ 1 มื้อของว่างเท่านั้น
รับ Laurent-Perrier Brut Champagne มาดื่มระหว่างรออาหารก่อนครับ
Appetizer พร้อมกับขนมปังต่างๆ (มื้อนี้เป็นอาหารมื้อเช้านะครับ)
Main จานนี้ผมเลือกเป็น Beef satay อร่อยมากกกกก ทานคู่กับซอสถั่วลิสงคือฟินจริงๆ นะครับ อร่อยกว่า Signature satay ของ Malaysia airlines อีกนะ
สำหรับมื้อเช้าผมทานไม่เยอะ เพราะก่อนขึ้นเครื่องมาก็ทานอาหารเช้าชุดใหญ่ใน Oman air lounge ไปแล้ว
มาที่มื้อกลางวัน มื้อที่ 2 ของเที่ยวบิน
Amuse bouche เรียกน้ำย่อยเป็นแซนวิชกุ้งและซุกินี
ต่อด้วย Vegetable soup
จานหลักเป็นปลาย่าง คู่กับมันฝรั่งและหน่อไม้ฝรั่ง
ของหวานวานิลลาชีสเค้ก ท๊อปหน้าด้วยมะม่วงราดซอสราสเบอรี่ ทานคู่กับผลไม้รวมและครีมชองติยี่
มาดูที่เที่ยวบินมัสกัต-กรุงเทพบ้าง
มื้อเช้าเช่นกัน เพิ่มความสดชื่นด้วย Champagne
Beetroot gravlax and salmon terrine with kidney beans and green peas
Main คือ Arabic style breakfast ประกอบไปด้วย Hummus, Labneh, Feta cheese, Foul madammes, Cheese fatayer, และกุ้งย่าง
เวลาทานก็เอาขนมปังแบบอาราบิค (แป้งแผ่นๆ ในรูป) เอามาควักมาจิ้มทานได้เลยครับ ใน 1 คำผมเอาทุกอย่างใส่ลงไปในขนมปังแล้วทานพร้อมกัน อร่อยสุดๆ
มื้อที่ 2 ของเที่ยวบิน
Amuse bouche เป็น ไก่บดชุบวุ้นเส้นทอดราดซอสชัตนี่มะขาม คำเดียว กรึ๊บ!
Appetizer คือ สลัดไก่ย่างตะไคร้ ราดน้ำสลัดราสเบอรี่
จานนี้ผมเปลี่ยนมากินคู่กับ Escudo Rojo ปี 2014 จากชิลี ไวน์แดงค่อนข้างเข้มข้นสี Ruby red จากการ Blend องุ่น Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Syrah, และ Carménère
จานหลักเป็นเป็ดตุ๋นซอสมัสตาด คู่กับมันฝรั่งบด ฟักทอง ซุกินี และมะเขือเทศย่าง
ถ้าสังเกต จะเห็นว่าไวน์ของผมจะหมดแล้ว แต่ลูกเรือก็ไม่ได้มาเติมให้ แม้จะเดินผ่านมาชะโงกดูว่าผมทานเสร็จหรือยัง ถ้าเห็นว่าไวน์พร่องไป ลูกเรือควรจะนำมาเติมหรือถามว่ารับเพิ่มหรือไม่
อุปกรณ์ช้อมส้อม ชุดแรกผมทานไปกับสลัดเสร็จ ลูกเรือก็เก็บคืนไปพร้อมกับจานสลัด พอนำเป็ดมาเสริฟ ก็ไม่นำ Cutlery ชุดใหม่มาให้ ต้องให้ขอ ไม่ได้เป็นไฟล์ทเดียวนะครับ เป็นแบบนี้ทั้ง 2 ไฟล์ทเลย
ตรงนี้เป็นจุดที่ลูกเรือเค้าควรใส่ใจรายละเอียดมากขึ้น จะทำให้บริการ Perfect ขึ้นเลยครับ
ของหวานเป็นไอศกรีมวานิลลาและพิตาชีโอ้ ตอนเอามาเสริฟ ตกใจมาก ตั้ง 3 scoop แต่สุดท้ายก็ทานหมดครับ
Oman air business class menu
ตัวอย่างอาหารเช้าครับ มีเพียบเลย เลือกเอาได้เลยครับว่าอยากทานอะไร ไม่ทานอะไร ลูกเรือ Customize ให้ได้หมด
เมนู A la carte สำหรับเสิร์ฟมื้อกลางวัน สามารถ Customize ได้ รวมถึงนำไป customize กับมื้อเข้าได้ด้วยเช่นกัน
ที่นั่งบนเครื่อง A330-300
สำหรับบางท่านที่ถามเข้ามาว่าเครื่องอื่นที่นั่งเป็นอย่างไรบ้างผมขอยกตัวอย่าง Business Class บนเครื่อง A330-300 นะครับ
ซึ่งที่นั่งก็จะเป็น 1-2-1 ที่สามารถเอนได้ 180 องศาแต่จะไม่ได้เป็น APEX suite แบบ 787
การตกแต่งจะใช้หนังน้ำตาลให้ความรู้สึกหรูหรา คลาสสิกดีครับ
ระยะระหว่างที่นั่งถึงหน้าจอทีวีกว้างขวางนอนได้สบายๆ เช่นกันครับ
Amenity kit
Amenity kit ของสายการบินโอมาน (Oman air ) ที่ให้มานั้นเป็น Set สำหรับผู้ชาย กระเป๋าหนังสีน้ำตาล ถ้าเป็นของผู้หญิงจะเป็นสีดำ ใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Amouage
ประกอบด้วย
1. Hands and body lotion
2. Facial moisturizer
3. Lip balm
4. ชุดมีดโกนหนวด
5. ชุดแปรงสีฟัน ยาสีฟัน
6. น้ำยาบ้วนปาก
7. หวี
8. Eye shade
9. ถุงเท้า
10. Ear plug
11. กระเป๋าหนังแบรนด์ Amouage
Highlight – New Muscat airport terminal 1
ตั้งแต่วันที่ March 20, 2018 เป็นต้นมานั้นที่สนามบิน Muscat (IATA: MCT) ได้เปลี่ยนมาใช้ Terminal 1 สำหรับไฟลท์บินต่างประเทศ ซึ่งพึ่งสร้างเสร็จเมื่อต้นปี 2018 นี่เองครับ ซึ่งไฟลท์ OMAN AIR ของที่ผมนั่งมาในวันนี้ก็ได้มีโอกาสใช้ terminal ใหม่นี้ด้วย ซึ่งภายในสนามบินเองนั้นก็อลังการงานสร้าง ไม่แพ้ชาติตะวันออกกลางเจ้าอื่นๆ เลยครับสิ่งที่ชอบมากสำหรับที่นี่คือเสียงที่คอนข้างเงียบครับเพราะเค้าออกแบบให้เป็น Silent airport คือจะไม่ประกาศตลอดเวลา ข้อมูลทุกอย่างจะมีจอ LED ให้ดูครับ
ภายในมี Duty free shop เหมือนตามสนามบินอื่นๆ ทั่วไป ใครตาดีลองดูราคาน้ำหอมบางยี่ห้อที่นี่นะครับ บอกเลยว่าอาจมีถูกกว่าที่ไทย อิอิ
ร้านขายยาก็มีนะครับ
อาหารการกินสมบูรณ์ครับไม่ต้องกลัวอดอยากเพราะมี KFC McDonald และร้านอาหารนานาชาติมากมายครับ
Business class lounge ณ สนามบิน Muscat
Bottom line
หวังว่ารีวิวนี้คงจะช่วยให้หลายท่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกับคำถามที่ว่า Biz class ของ Oman air ดีมั้ย?
Safe flight ครับและเจอกันในรีวิวฉบับหน้าครับ