ความรื่นรมย์แห่งการกินที่ครัวมหาภิรมย์  วิลล่ามหาภิรมย์ เชียงใหม่

ณ วันนี้ต้องยอมรับว่าเชียงใหม่มีร้านอาหารดีๆ เยอะมาก โดยเฉพาะอาหารไทยชาวเหนือแบบประยุกต์ก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนกินจะพาทุกท่านไปลิ้มลองอาหารเหนือแบบประยุกต์ที่ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่ใส่ทั้งความบรรจงและความปราณีตมาไว้ในจานด้วย เพื่อนกินเห็นว่าที่ครัวมหาภิรมย์นี่มีดีและเป็นอีกร้านที่ควรมาลองในเมืองเชียงใหม่นี้ครับ

บรรยากาศห้องอาหาร เรียบๆ แต่มีดีเทลเต็มไปหมด ทั้งโคมไฟ รูปปั้นสวยๆ

เวลาพูดถึงวิลล่ามหาภิรมย์ หลายคนอาจนึกถึงชื่อของโรงแรมสุดชิคและบูทีคโฮเทลดีไซน์แบบไทย ที่รายล้อมไปด้วยเรือนไทยสวยๆ อายุกว่าร้อยปี แต่โรงแรมแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ที่พักครับ เพราะห้องอาหารของที่นี่ก็มีดีไม่แพ้กัน ด้วยเมนูไทยๆ ที่บรรจงทำอย่างพิถีพิถัน จนยกระดับอาหารพื้นบ้าน ให้กลายเป็นจานอาหารสุดล้ำค่า และสร้างความอภิรมย์ให้กับผมได้ตลอดระยะเวลาการกินเลยครับ

ข้าวตังน้ำพริกอ่อง รสชาติแบบเหนือแท้ๆ

เริ่มตั้งแต่ appetizer จานแรกอย่างข้าวตังน้ำพริกอ่อง (320 บาท) น้ำพริกอ่องรสเค็มนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ พอกินกับข้าวตังกรอบๆ แล้วอร่อยลงตัวมากครับ

ข้าวเหนียวผัดมหาภิรมย์

อาหารจานหลักก็อร่อยไม่แพ้กัน อย่าง “ข้าวเหนียวผัดมหาภิรมย์” (260 บาท) หน้าตาอาจจะดูธรรมดาๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยครับ

โดยทางร้านเอาข้าวเหนียวไปนึ่ง 1-2 นาที เพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดกันเป็นเม็ด จากนั้นจึงเอาข้าวเหนียวไปผึ่ง และแช่เย็นต่อ ก่อนจะนำมาผัดกับน้ำพริกกุ้งเสียบ รสเผ็ดกำลังดี กลายเป็นข้าวเหนียวผัดที่มีรสสัมผัสแปลกใหม่ นุ่มๆ มีความหนึบนิดๆ แถมผัดมาได้แห้งๆ ไม่อมน้ำมัน ทานเพลินๆ ได้แบบไม่เบื่อเลยครับ

แกงเหลืองปลาแซลมอนรสแซบ

“แกงเหลืองปลาแซลมอน” (360 บาท) ก็มีรสจัดจ้าน ถึงเครื่องแกงมาก แถมปลาแซลมอนก็สดอร่อย เรียกได้ว่าถึงแม้จะเผ็ด แต่ก็อยากซดน้ำแกงต่อจนหมดจานเลยครับ

 

พะโล้ผัดแห้ง เคี่ยวจนเครื่องพะโล้เข้าเนื้อ

ความดีงามยังไม่ได้หมดแค่นี้ เพราะจานที่เหลืออย่างพะโล้ผัดแห้ง (280 บาท) และน้ำพริกกุ้งเสียบ (280 บาท) ก็อร่อยไม่แพ้กัน พะโล้เคี่ยวจนเข้าเนื้อ ส่วนหมูถึงแม้จะถูกเอาไปผัดจนแห้ง แต่ตัวเนื้อก็ยังนุ่มอยู่ ไม่ได้แห้งจนเกินไปเลยครับ ถ้าเทียบกับพะโล้ร้านอื่นๆ ที่กินมา ผมว่าร้านนี้อร่อยที่สุดเลยถูกใจมากครับ

มหาภิรมย์ เดอ กีมาร์ ขนมหวานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้าวทองกีบม้า

ตบท้ายด้วยของหวานชื่อแปลกอย่าง “มหาภิรมย์ เดอ กีมาร์” (280 บาท) จานนี้เป็นจานเดียวที่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ คือหน้าตาสวยคับ แต่รสชาติเฉยๆ คือเป็นไอศครีมชาเขียวธรรมดา โปะด้วยฝอยทองแค่นั้นเอง

โดยรวมแล้ว ถึงแม้จะมีของหวานที่ผมยังไม่ประทับใจ แต่อาหารจานหลักอย่างอื่น อร่อยหมดเลย ใครแวะเวียนมาเชียงใหม่ อย่าลืมหาโอกาสมาลองกินร้านนี้ดูนะครับ

สรุป

ครัวมหาภิรมย์อาจจะไม่ใช่ร้านยอดฮิต และหน้าเสียดายที่หลายคนไม่เคยได้ยินชื่อ แต่สำหรับเพื่อนกิน เพื่อนกินกล้ารับรองว่าที่ร้านนี้รสชาติเด็ด ไม่แพ้หลายร้านที่คนแห่ไปต่อคิวกินกันแน่ๆ ครับ

เพื่อนๆ คนไหนเคยไปลองแล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะครับ 🙂